{[['
']]}
เนื้อเรื่องย่อ...
"Lord of War" หรือชื่อภาษาไทยว่า "นักฆ่าหน้านักบุญ" เข้าฉายครั้งแรกเมื่อปี 2005 นำแสดงโดย นิโคลัส เคจ, อีธาน ฮอว์ค, บริทเจ็ท โจนาฮาน "Lord of War" เป็นผลงานการกำกับและเขียนบทของ แอนดรูว์ นิโคล ที่เคยเขียนบทให้หนังเจ๋งๆมาแล้วหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น The Truman Show, The Terminal รวมทั้ง Gattaca และ S1m0ne ซึ่งสองเรื่องหลังนี้เขาลงมือกำกับเอง นิโคลได้เข้าชิงออสการ์ สาขาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจาก The Truman Show "นิโคลัส เคจ" รับบท พ่อค้าอาวุธเลือดยูเครน นาม "ยูริ ออร์ลอฟ" ซึ่งเนื้อหาเป็นเรื่องราวของ ชายหนุ่มจากครอบครัวยูเครนอพยพคนหนึ่ง ที่ผันตัวเองจากลูกเจ้าของร้านอาหารมาเป็นพ่อค้าอาวุธสงครามระดับโลก ชีวิตของเขาไม่ต่างอะไรกับการผจญภัยที่เสี่ยงทั้งคุกและลูกปืน ออร์ลอฟ เดินทางไปทั่วโลก เพื่อเจรจาธุรกิจผ่านเขตสงครามสุดอันตรายหลายแห่ง โดยแต่ละแห่งเขาจะเปลี่ยนชื่อและหลักฐานส่วนตัวไปเรื่อยๆ ขณะก้าวสู่จุดสูงสุดของอาชีพ ออร์ลอฟ ต้องดิ้นรนหนี ทั้งตำรวจสากล คู่แข่งทางการค้า รวมทั้งลูกค้าจอมโหดบางคน แม้ว่าวูบหนึ่งจะรู้ดีว่าสิ่งที่ทำอยู่ผิด แต่ชีวิตหรูหราน่าตื่นเต้นก็เย้ายวนจนเขาไม่อาจหันหลังให้ได้ "Lord of War" เป็นหนังที่มีเนื้อหาดีครับ ดราม่าทั้งเรื่องเเทบไม่มีเเอ๊คชั่น หนังทำให้ทราบว่าการก่อสงครามนั้นมีจุดริเริ่มจากการค้าอาวุธ ถ้าไม่มีอาวุธก็ทำสงครามไม่ได้ คติสำหรับนักค้าอาวุธที่ถูกใจมากก็คือ "ห้ามถูกยิงตายโดยอาวุธปืนที่เป็นสินค้าของตนเอง เเละการค้าอาวุธจะต้องรู้ว่าเงินจะต้องได้ตามจำนวนที่กำหนดยิ่งถ้าได้ก่อนยิ่งดี" เเละผลเสียของการค้าอาวุธเป็นอย่างยิ่งคือ "หากสงครามหยุด อาวุธจะทำการซื้อขายไม่ได้" “สงครามนี้ไม่ใช่ของเรา” ยูริ ออร์ลอฟ บอกน้องชาย ครั้งแรกด้วยทีท่าฝืนใจที่ต้องเดินหนีความจริงที่โหดร้ายตอนเริ่มทำธุรกิจค้าอาวุธ เมื่อทั้งสองไปยืนอยู่หลังกำแพงที่เหล่าเด็กๆและเหยื่อสงครามกำลังจะถูกจับไปยิงทิ้ง “สงครามนี้ไม่ใช่ของเรา” ประโยคนี้ถูกเอ่ยขึ้นอีกครั้ง เมื่อน้องของยูริ ออร์ลอฟ ทักท้วงไม่อยากให้เขาค้าอาวุธให้กับฝ่ายขอซื้อ เพราะน้องชายเขาเห็นว่าเหยื่อที่กำลังจะถูกฆ่าอยู่ตรงด้านล่างต่อหน้าต่อตา ต่างจากครั้งแรกที่มีกำแพงมาขวางกั้น มันยังพอทำเป็นมองข้ามกำแพงของมโนธรรมแกล้งทำเป็นไม่เห็นได้ นั่นเพียงพอแล้วที่จะบอกว่า น้องชายของเขายังไม่เปลี่ยนไปจากเดิม แต่ ยูริ ออร์ลอฟ เปลี่ยนไปแล้วอย่างถาวรเมื่อเขาไม่ได้มีสีหน้าสะทกสะท้านแม้แต่น้อย กับ การที่จะต้องขายสิ่งที่ทำลายชีวิตตรงหน้า "Lord of War" เป็นหนังดีอีกเรื่องหนึ่งที่นำประเด็นความเลวร้ายของสงครามและการเข่นฆ่ามาให้ดูกันในอีกด้านหนึ่ง เหมือนกับความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ต้องมีคนเบื้องหลัง สงครามก็เช่นกันที่นอกจากจะมีคนที่ฆ่ากันแล้ว คนที่อยู่เบื้องหลังการฆ่าก็มีส่วนที่ทำให้สงครามนั้นเกิดขึ้น หนังพาคนดูได้ไปพบกับเรื่องราวหลังฉากที่ไม่เคยรับรู้มาก่อน เป็นหนังดราม่าที่เล่าเรื่องของคนๆหนึ่งจนคล้ายกับประวัติความเป็นมาจากเริ่มต้นไปจนถึงบทสุดท้าย สิ่งหนึ่งที่มีให้เห็นเสมอในงานของ แอนดรูว์ นิโคล คือ ความคิดสร้างสรรค์ จากผลงานทั้งเขียนบททั้งกำกับหนัง 2 เรื่องที่ผ่านมา แม้จะไม่ทำเงินมาก แต่ในด้านคุณภาพคงไม่มีใครกังขา ผลงานที่เขาเขียนบทอย่างเดียวอย่าง The Truman Show กับ The Terminal เขาสามารถสร้างงานของตัวเองให้แตกต่างจากเรื่องอื่นๆ ทั้งที่เป็นเนื้อหาเหมือนกัน ความแตกต่างมาจากความคิดสร้างสรรค์ของเขาที่มองเรื่องราวในแง่มุมที่ต่างออกไป และนำเสนอออกมาได้อย่างชาญฉลาด ใน "Lord of War" เช่นกัน หนังเกี่ยวกับสงครามมีสร้างกันมามากมาย แต่เขาก็ยังทำให้ "Lord of War" ต่างจากคนอื่นได้ชัดเจน "Lord of War" ตีแผ่หลังฉากของสงครามออกมาให้เห็นว่า อาวุธหรือกระสุนปืนจำนวนมากที่เอามายิงกันเกลื่อนนั้นมันมาจากไหน ผ่านตัวตนของพ่อค้าอาวุธสงครามนาม "ยูริ ออร์ลอฟ" เป็นผู้ซึ่งลั่นไกกระสุนจากมือที่มองไม่เห็นสังหารคนได้ทั่วโลก นี่เป็นภาพยนตร์กึ่งสารคดี ความสนุกอาจไม่เท่าไหร่ แต่สาระเกินร้อย ที่น่าหามาชมกันครับ..!!
แสดงความคิดเห็น